[Call me BT: Review+How to] Skin Makeup from FACE SO! เครื่องสำอางสำหรับงานผิว

เฮวโหลลลลทุกคนนนนนนนนน^^ กลับมาพร้อมเสียงสูงอันสดใสวัยรุ่นมากเว่อร์^^ คิดถึงกันไหนมเอ่ย คืออย่างนี้ค่ะ เนื่องจากว่าบีทีได้ลองเล่นลองใช้เครื่องสำอางแบรนด์หนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็น Skin Makeup คือเครื่องสำอางสำหรับผิวโดยเฉพาะ และแบรนด์ที่บีทีจะมาเล่าถึงก็คือ FACE SO! (เฟสโซ) ค่ะ

สำหรับแบรนด์ เฟสโซ เค้าจะเน้นตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้นของการลงเครื่องสำอางบนใบหน้าจนได้ผลลัพธ์ที่ดีออกมานั่นเอง นอกจานนี้ในสินค้าชุดแรกของ FACE SO! ยังได้ความร่วมมือจาก Makeup Artist ระดับ Top List ของเกาหลีอย่าง Mr.Park Tae Toon ในการร่วมพัฒนาสินค้าให้เหมาะสำหรับหรับสาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยนะจะ

เพราะฉะนั้น เฟสโซ (Face So!) เครื่องสำอางสำหรับงานผิว เพื่อผิวคนไทยโดยเฉพาะอย่างเราจึงใช้ได้จ้า:)

สำหรับการรีวิวเครื่องสำอางเฟสโซ (Face So!) ครั้งนี้ บีทีจะมีทั้ง How-to และ Swatch ใหเเพื่อนได้ชมกันเน้นเลยค่ะ เริ่มกันเล้ย.....!

ซึ่งลุควันนี้ที่บีทีจะมาครีเอทให้เพื่อนๆชมกันก็จะเป็นแนวการแต่งหน้า Everyday Look แนวๆการแต่งหน้าเกาหลี เดี๋ยวกันว่าแต่งออกมาจะเกาหลีหรือเกลาเหลากันแน่?5555+

Step 1: ลง Skin Color Correcting Fluid

--> สำหรับการใช้พวก color corrector เป็นการใช้หลักการการหลักล้างกันของสีมาช่วยแก้ไขจุดบกพร่องนั่นเองค่ะ

สีม่วง: อำพรางริ้วรอยและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
สีเขียว: สำหรับผิวที่มีรอยแดงให้ดูสดใส อำพราง รอยแดงและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
สีเหลือง: อำพรางรอยคล้ำไม่สม่ำเสมอ

--> โดยบีทีลงสีเหลืองช่วงใต้ตา สีเขียวช่วงบริเวณที่เป็นรอยแดง และสีม่วงที่บริเวณร่องน้ำหมากค่ะ

Step 2: ลงรองพื้น Foundation/Cushion

Super Matte Fit Foundation #No.02: เป็นรองพื้นแบบหยด รองพื้นสูตรน้ำ เกลี่ยง่ายค่ะ บีทีทาที่ครึ่งด้านขวาของใบหน้าค่ะ ทาแล้วสีกลืนผิวดี ไม่ลอยหรือเทาค่ะ^^

บีทีใช้นิ้วมือในการลงค่อยๆtapไปบนใบหน้าเลยค่ะ ทาง่ายด้วยค่ะ บางเบาปกปิดปานกลางเพราะครั้งนี้บีทีอยากได้งานผิวจึงไม่ได้บิ้วด์เพิ่มค่ะ

Asian Perfect Light Cushion #No.01: คุชชั่น เนื้อบางเบาแต่ปกปิดดีเลยค่ะ แถมยังเข้มข้นด้วยเม็ดสีขนาดเล็กช่วยอำพรางสีผิวให้สม่ำเสมออย่างเป็นธรรมชาติ พร้อม Silicone Coated Powder ปกป้องผิวจากความหมองคล้ำระหว่างวัน ป้องกันแสงแดดด้วย SPF50 PA+++

บีทีทาคุชชั่นโดยใช้พัฟที่เค้าให้มาเลยค่ะ กดๆลงทั่วใบหน้าครึ่งขวาที่เหลือ เมื่อคุชชั่นเซ็ทตัวกับผิวแล้ว ผิวจะดูสวยสีสม่ำเสมอเป็นธรรมชาติเลยค่ะ

Step 3: ลง Concealer บริเวณที่ต้องการการปกปิดเพิ่มเติม

บีทีใช้ Maximum Cover Concealer #No.01 แต้มรอยที่ยังชัดอยู่ แล้วใช้นิ้วหรือแปลงค่อยๆเกลี่ยให้เนียนค่ะ ส่วนตัวแนะนำว่าให้นำเนื้อมาวอร์มก่อนค่ะ จะใช้เกลี่ยได้ง่ายขึ้นค่ะ^^

Step 4: ลงแป้งเพื่อเซ็ททุกอย่างอีกรอบ หลังจากที่ลงพวกเนื้อครีมต่างๆไป

Light Air Loose Powder #No.02 warm beige: เป็นแป้งฝุ่นที่ปรับผิวให้แลดูสม่ำเสมอ ไม่มันวาว เนื้อแป้งละเอียดมากเลย^^ นุ่มนวลและบางเบาด้วย และควบคุมความมันส่วนเกิน นอกจากนี้บีทีชอบมากเลยที่มีตาข่ายยืดหยุ่นเป็นที่กั้นของเนื้อแป้งกับพัฟ ทำให้กะปริมาณของแป้งที่ต้องการใช้ได้ค่ะ

Asian Super Matte Light Powder #No.02 warm beige: แป้งพัฟผสมรองพื้นเนื้อแมท แป้งคุมมัน ช่วยปกปิดผิวให้เรียบเนียน อำพรางริ้วรอย รูขุมขน และควบคุมความมัน เนื่อแป้งละเอียดทาง่ายค่ะ บีทีใช้ใช้ทาเน้นตรงที่ต้องปกปิดเพิ่มหรือบริเวณที่ความมันเพิ่มขึ้นระหว่างค่ะ จริงๆสามารถทาได้ทั้งแบบเปียกและแห้งเลยนะ อยู่ที่เราต้องการการปกปิดมากหรือน้อย และสามารถลงเดี่ยวๆก็ได้แบบไม่ต้องลงรองพื้นก็สะดวกรวดเร็วจร้า

บีทีลงแป้งฝุ่นตบเบาทั่วให้หน้าเลยค่ะ จากนั้นทาแป้งพัฟในจุดที่ต้องการปกปิดและส่วนที่จะมันได้ง่ายค่ะ นอกจากนี้ก็ทาลงมาบริเวณลำคอด้วยค่ะ

Super Fix Matte Finishing Powder: ฟีนิชชิ่งพาวเดอร์ ทาเพื่อให้ผิวเนียนกลมกลืนเป็นธรรมชาติ ช่วยให้เมคอัพติดทนและความคุมความมันส่วนเกิน ป้องกันการเกิดคราบเหงื่อ ไม่ให้เครื่องสำอางลบเลือนหรือแป้งเปลี่ยนสีระหว่างวัน

สำหรับเจ้าฟีนิชชื่งพาวเดอร์ตัวนี้ บีทีก็ลงทั่วหน้าเลยค่ะใช้พัฟหรือแปรงก็ได้แล้วแต่สะดวกเลย ครั้งนี้บีทีลองใช้พัฟก็ทาง่ายดีนะคะ เพื่อเซ็ททุกอย่างอีกครั้งเป็นรอบสุดท้าย

ส่วนภาพนี้บีทีเทียบสีให้ดูอีกทีว่าแป้งแต่แบบเนื้อและสีออกมาประมาณไหนค่ะ

Super Fix Matte Finishing Powder: สีโปร่ง แทบไม่เห็นสีเท่าไหร่ค่ะ
Asian Super Matte Light Powder: สีเนื้อ เนื้อเนียน ละเอียด มีการปดปิดได้
Light Air Loose Powder: สีเนื้อกลืนไปผิวผิวได้ดี เนื้อนุ่มละเอียด ไม่ได้เน้นเรื่องปกปิดเท่าแบบแป้งพัฟ

Step 5: สร้างมิติให้ใบหน้ากันค่ะ^^

Pro Face Contour & Glow Shimmer: คอนทัวร์พาเลท ไฮไลท์ เฉดิ้ง บรอนเซอร์ ช่วยเนรมิตรูปหน้าเรียว เนื่อบางเบาให้ความกลมกลืนเป็ธรรมชาติ ส่วนบีทีมีในครอบครองด้วยกันสองเฉดีสีค่ะ

Pro Face Contour & Glow Shimmer #No.01 Oval beige เบอร์นี้ออกโทนสว่าง ชิมเมอร์โทนชมพูค่ะ

Pro Face Contour & Glow Shimmer #No.03 Oval Natural อันนี้ออกโทนน้ำตาลอ่อนๆ ชิมเมอร์โทนส้มทองค่ะ

เพิ่มมิติให้ใบหน้าโดยใช้เฉดดิ้งมาสร้างแรงเงาข้างแก้ม ลบเหม่ง สร้างสันจมูกเบาๆได้ด้วยนะคะ

ต่อมาก็ปัดแก้มโดยใช้พาเลท No.01 ตามด้วยแต่งตาที่ง่ายมากกกกก โดยใช้น้ำตาลจากพาเลท No.03 ทาเป็นสีพื้นที่เปลือกตา แล้วลงชิมเมอร์สีส้มเพื่อสีสันสดใสดวงตาของเรา แล้วเติมสีน้ำตาลเข้มช่วงหางตาบนและล่างค่ะ

จากนั้นก็ไปเขียนคิ้ว ปัดขนตา ทาปาก ให้เรียบร้อยเป็นอันเสร็จค่ะ บริ๊งๆๆ!!

ทาดาาาา! finish look แต่งหน้างานผิวจร้าด้วยเครื่องสำอางจาก FACE SO!

เรามาเทียบดู Before - After กันดูดีกว่าเนอะ^^

และเพื่องานเกาที่มากขึ้น แปลงโฉมทรงผมกันสักนิด5555+ พอจะเกาเพิ่มขึ้นบ้างไหมเอ่ย

เวลาไปแต่งหน้าแล้วมันก็จะแฮปปี้ดี๊ด้าแบบหน่อยๆ งานผิว everyday look

สรุป: สว่นตัวบีทีแล้วชอบรองพื้นนะ เพราะเนื้อบางเบาเกลี่ยง่าย สีเข้ากับผิวหน้าได้ดี และเมื่อใช้คู่กับแป้งฝุ่นก็ยิ่งดูเป็นงานผิวมากขึ้น แป้งฝุ่นทาง่าย เนื้อละเอียดชอบมากกก ผิวหน้าดูเรียบเนียนแลเป็นธรรมชาติอยู่ด้วยนะ ส่วนแป้งพักก็สะดวกในการใช้ทาได้ง่ายใช้ได้หลายแบบทั้งทาแบบแห้งและเปียก เนื้อละเอียดเช่นกันและคุมมัน ปกปิดได้ด้วย ส่วนอีกสิ่งที่บีทีชอบก็คือคุชชั่นค่ะ เพราะเนื้อทาง่ายปกปิดคุมมันแต่ไม่หนักหน้าจนเกินไปและเฉดสีก็กลมกลืนไปกับผิวหน้าได้ดีมากเลยค่ะ^^

มาดูคะแนนโดยรวมจากบีทีกันบ้างดีกว่า....

แพกเกจ: 8/10
ความติดทน: 7/10
การปกปิด: 7/10
ความเกลี่ยง่ายของรองพื้น: 9/10
การคุมมัน: 8/10
เฉดสี: 9/10

พิกัด: EVEANDBOY และ ร้าน Beautrium จำนวน 3 สาขา ดังนี้ 1. ชั้น G, Centerpoint Of Siam Square (ดิจิตอลเกตเวย์เดิม) 2. ชั้น 3, Seacon Srinakarin (ซีคอนศรีนครินทร์ ฝั่งโลตัส) 3. โซนชิงช้า, Asiatique The RiverFont (เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์) และช่องทางออนไลน์ Lazada, Shopee, Konvy และ Beauticool

ข้อมูลเพิ่มเติม: